นวัตกรรมการรักษาโรคโดยเครื่องกระตุ้นเซลประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็ก(magnetic stimulation)
การกระตุ้นด้วยแม่เหล็ก (magnetic stimulation) มีมาตั้งแต่อดีตกาล แม้ในตำราการแพทย์จีนเก่าแก่คือ หวางตี้ไน่จิง ก็ยังมีบันทึกไว้ ยอดหญิงคลีโอพัตราก็ยังสวมใส่แม่เหล็กที่หน้าผากสำหรับบำบัดสุขภาพ กาลเวลาผ่านไปพร้อมเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวไกล โลกเริ่มรับรู้ว่า การบำบัดด้วยแม่เหล็กที่ได้ผลดีมากๆมาจากคลื่นแม่เหล็กที่กระตุ้นด้วยวิธีการแม่เหล็กไฟฟ้าให้มีคลื่นออกมาเป็นระยะตามที่เรียกกันว่า Pulsed Electro-Magnetic Field (PEMF) และตั้งแต่เดิมนั้น การเลือกใช้คลื่นแม่เหล็กในการบำบัดนี้ยังคงใช้กำลังคลื่นแม่เหล็กที่ยังอ่อนมากๆในระดับ 100-200 เก๊าส์เท่านั้น ซึ่งทำให้การบำบัดรักษาโรคใช้เวลานานเป็นชั่วโมง และบางโรคก็ไม่อาจรักษาให้ได้ผลที่เป็นที่น่าพึงพอใจ
ในขณะที่การบำบัดอาการปวด บำบัดการเชื่อมต่อกระดูก และการส่งเสริมสุขภาพด้วยคลื่นแม่เหล็ก PEMF ในช่วงแรกดำเนินไปอย่างช้าๆและไม่หวือหวาด้วยเพราะประสิทธิภาพที่ไม่สู้ดีนัก อีกซีกหนึ่งของการค้นคว้ารักษาโรคก็เริ่มมีการพัฒนาเครื่องมือทันสมัยที่เป็นคลื่นแม่เหล็กสำหรับการบำบัดโรคทางสมอง โดยใช้วิธีการกระตุ้นที่เปลือกสมองโดยตรง เรียกว่าสร้างเครื่องที่ปล่อยคลื่นแม่เหล็กมากระตุ้นสมองผ่านกะโหลกศีรษะ คือแค่วางตัวกระตุ้นที่ศีรษะเท่านั้น และดังนั้น เครื่องนี้จำเป็นต้องมีความแรงที่มากพอที่จะกระตุ้นผ่านกะโหลกหนาๆของมนุษย์ได้ ความแรงที่ว่านี้แรงเป็นหมื่นเก็าส์กันเลยทีเดียว เครื่องแรกที่ผลิตกันขึ้นมาใช้ในการบำบัดโรคทางสมองมีมาตั้งแต่ปี คศ.1985 และมีการพัฒนาศักยภาพให้เครื่องทำงานได้ดีขึ้น นานขึ้น ขจัดปัญหาสำคัญของการเกิดความร้อนที่ตัวเครื่องและทำให้การบำบัดเป็นไปได้อย่างตลอดรอดฝั่งกันแล้วในปัจจุบัน
และนั่นคือพัฒนาการก้าวกระโดดของเครื่องกระตุ้นเซลประสาทและสมองที่ปัจจุบันเรียกว่า TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) มันบำบัดได้ผลดีมากๆกับโรคซึมเศร้า โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก โรคปวดเรื้อรัง และโรคทางสมองอีกหลายโรค มีงานวิจัยสนับสนุนผลการรักษาด้วยวิธีนี้มากมาย จนกระทั่งได้รับการจัดทำแนวทางปฏิบัติในการบำบัดโดยผู้เชี่ยวชาญทางฝั่งยุโรปเมื่อปี คศ.2014 แต่น่าเสียดายที่ในวงการแพทย์ น้อยคนที่สนใจนำเครื่องดีๆอย่างนี้มาพัฒนาต่อยอดในการบำบัดโรคอื่นๆในตำแหน่งต่างๆที่ไม่ใช่สมอง ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยการบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กตามตัวรอบข้าง( PMS, Peripheral Magnetic Stimulation)น้อยมาก เราเพิ่งจะได้เห็นผลงานตีพิมพ์มากขึ้นในช่วงสองปีให้หลังนี้ โดยที่ในความเป็นจริงอีกซีกโลกหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา คือประเทศเกาหลี เมื่อ 10 ปีก่อนได้พัฒนาเครื่อง TMS มาบำบัดสมองตามยุคสมัยเหมือนกัน แต่ก็ได้มองเห็นการต่อยอด PEMF ในการบำบัดตามลำตัวและแขนขาในทันที จึงพัฒนาเครือง PMS แยกต่างหากโดยมีคุณสมบัติสำคัญที่แตกต่างจากเครื่อง TMS คือนุ่มกว่า แรงกว่า และทนความร้อนได้ดีมากๆจนสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องอย่างไม่มีข้อจำกัด
และแล้วก็มาถึงข้อสรุปที่ว่า การกระตุ้นเซลประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กนี้มีอะไรโดดเด่นนักหนา ใช่แล้วมันโดดเด่นด้วยคุณสมบัติของเครื่องมือทันสมัยที่บำบัดปวดและโรคทางเอ็น กล้ามเนื้อ ไขข้อและประสาท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองดูคุณสมบัติโดดเด่นเหล่านี้
บำบัดได้ผลในทันทีหลังการรักษา
ใช้เวลาในการรักษาสั้นมาก ในราว 2-5 นาทีต่อจุดการรักษา
รักษาต่อเนื่องน้อยครั้งก็ได้ผลดีมาก
รักษาได้ผลในทุกระยะของการดำเนินโรค คือทั้งระยะเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลันและเรื้อรัง
กลไกการรักษาเป็นการกระตุ้นให้มีการซ่อมสร้างของเนื้อเยื่อ ไม่ใช่เพียงการแก้อาการเท่านั้น
ผลการบำบัดที่ว่าได้ผลนั้นมีอะไรบ้าง น่าทึ่งทีเดียว ได้แก่
ลดปวดดีเยี่ยม
แก้อาการชาได้ทันทีทันใด เหนือกว่ายาและเครื่องมือไหนๆ
เพิ่มกำลังของกล้ามเนื้อได้ดี แม้กับกล้ามเนื้อที่อัมพาตอ่อนแรง
เร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาทที่บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น บาดเจ็บเส้นประสาทแขนขา มือตกเท้าตก แขนขาอ่อนแรง การกดทับรากประสาทที่คอและเอวจากโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนหรือเสื่อม
เร่งการฟื้นตัวจากเส้นประสาทที่มีพฤติกรรมผิดเพี้ยน เช่น อาการเหน็บชา ปวดแปล็บหลังการบาดเจ็บเส้นประสาท อาการปวดเรื้อรังจากโรคทางกล้ามเนื้อกระดูกทุกชนิด กระทั่งอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุดที่เกิดจากอุบัติเหตุสมองหรือไขสันหลัง หรือที่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อเรื้อรังจนปัสสาวะเป็นนิสัย